3 ประเภท รถยนต์ที่มีไฟฟ้าช่วยขับเคลื่อน กระแสมาแรงไม่มีแผ่ว จะเลือกแบบไหนให้เข้ากับสไตล์การใช้งานของคุณ…โพสต์นี้ทีมงานจามจุรี หาดใหญ่ มีคำตอบมาให้…
เริ่มต้นกันที่ HEV: Hybrid รถไฮบริดชนิดนี้มีที่ทำตลาดในไทยมานานกว่า 10 ปีแล้ว รุ่นรถที่มีคุ้นๆ หูกันได้แก่ Toyota Prius เรียกได้ว่าเป็นรุ่นแรกๆ ที่ทำให้เราได้สัมผัสกัน ซึ่งในปัจุบันแบรนด์รถยนต์อื่นๆ ได้นำระบบนี้เข้ามาขายในไทยเพิ่มมากขึ้น
ข้อดีคือประหยัดน้ำมันกว่ารถทั่วไป เนื่องจากมีระบบไฟฟ้าเข้ามาแบ่งเบาภาระของเครื่องยนต์หลักที่ต้องใช้น้ำมันช่วยในการออกตัว และช่วงเคลื่อนตัวในย่านความเร็วต่ำ เช่น ช่วงรถติดในเมือง มีการจอดติดไฟแดงนานๆ หรือมีการเริ่มออกตัวบ่อยๆ ซึ่งเป็นช่วงเปลืองพลังงานน้ำมัน
แบตเตอรี่ในรถชนิดนี้มักมีอายุอยู่ที่ 10 ปี เพื่อเปลี่ยนลูกใหม่ จะไม่มีการชาร์จไฟจากภายนอกตัวรถเข้าไปโดยตรง แต่เปลี่ยนพลังงานในช่วงเบรคชาร์จกลับเข้าไปแทน
ระบบที่ 2 คือ PHEV: Plug-in Hybrid ระบบนี้ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากระบบ Hybrid ปกติ ให้มีขนาดแบตที่ใหญ่ขึ้น จุไฟฟ้ามากขึ้น สามารถเลือกขับด้วยระบบไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางสั้น-ปานกลาง ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปปกติ ซึ่งการใช้ไฟฟ้าในช่วงแรกนี้เองจึงช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีมากขึ้น มีการตอบสนองของอัตราเร่งคล่องตัวจากการใช้แบตเตอรี่ ที่สำคัญคือแบตในรถประเภทนี้สามารถชาร์จไฟเข้าจากภายนอกได้ จึงเหมือนมี 2 ระบบในการขับขี่ได้แก่ไฟฟ้าล้วน และเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมัน โดยขึ้นอยู่กับเจ้าของรถจะเลือกใช้
ระบบ Plug-in Hybrid สามารถขับด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกล และมีอัตราเร่งที่ดีกว่าระบบ Hybrid โดยรถยนต์กลุ่มนี้มักมาจากค่ายยุโรป ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง ผู้ใช้งานต้องคอยชาร์จแบตอยู่เสมอเพื่อให้แบตเตอรี่สามารถจ่ายพลังงานการขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ระบบที่ 3 คือ EV: Fully Electric เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% นั่นคือมีการส่งพลังงานในการขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพของอัตราเร่งได้ดีมาก มีการออกตัวที่คล่องตัวกว่ารถทั่วไป ไม่มีการใส่เครื่องยนต์สันดาปเข้ามาในรถ ไม่มีการใช้พลังงานจากน้ำมัน จึงถือว่าเป็นรถที่ไม่ปล่อยมลภาวะทางอากาศ หรือ Zero Emission
สิ่งสำคัญคือการหาที่ชาร์จไฟเข้าสู่ตัวรถโดยตรง เพราะรถยนต์ประเภทนี้ไม่มีการใ่ช้น้ำมัน ดังนั้นสถานีชาร์จไฟ หรือบ้านที่มีระบบพร้อมชาร์จไฟฟ้าสู่ตัวรถ จึงสำคัญ เพราะเปรียบได้กับสถานีน้ำมันสำหรับรถยนต์เครื่องสันดาป ในปัจจุบัน
ความสามารถในการชาร์จไฟเข้าสู่ตัวรถมีความแตกต่างกันตามแต่ละผู้พัฒนา ยิ่งรุ่นรถที่สามารถวิ่งได้ไกล และชาร์จไฟเข้าเต็มได้รวดเร็ว ถือเป็นจุดขายสำคัญของรถยนต์ชนิดนี้ที่มักผลิตออกมาแข่งขันกันเพื่อสู้กับขีดความสามารถของรถยนต์น้ำมันที่เติมน้ำมัน 1 ถังใช้เวลาอันรวดเร็ว พร้อมขับได้ระยะทางไกลในทันที แต่ก็แน่นอนว่าต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงขึ้นตามสมรรถนะของรถ และขนาดแบตเตอรี่
จามจุรี ไลท์ บ้านเดี่ยวบ้านแฝด ที่รองรับระบบการชาร์จรถไฟฟ้าในตัว